หนังสือสภาพดี รูป/เรื่องย่อ นิยาย/หนังสือ จักฉากฆ่า-They-did-it-with-love- โดย เคท-มอร์เกนรอธ สำนักพิมพ์ sanskrit 🧡🧡🧡 หมวดหนังสือ

จักฉากฆ่า-They-did-it-with-love- โดย เคท-มอร์เกนรอธ สำนักพิมพ์ sanskrit ⭐⭐⭐⭐⭐

คลิกดูหนังสือ 🧡 จักฉากฆ่า-They-did-it-with-love- โดย เคท-มอร์เกนรอธ สำนักพิมพ์ sanskrit ⭐⭐⭐⭐⭐

จักฉากฆ่า-They-did-it-with-love-

จักฉากฆ่า-They-did-it-with-love-
.   สินค้าหมด
ชื่อเรื่อง จัดฉากฆ่า (They Did It with Love)

ผู้แต่ง : เคท มอร์เกทรอธ
ผู้แปล : วีระยุทธ เลิศพูลผล

โซฟีกับสามีหันหลังให้แสงสีในเมือง มุ่งหน้าหาความสงบจากธรรมชาติและชมรมหนังสือ ณ หมู่บ้านแห่งใหม่ แต่แล้วการเริ่มต้นชีวิตกลับไม่ราบรื่นอย่างที่คิด เมื่อหนึ่งในสมาชิกชมรมถูกพบเป็นศพแขวนอยู่หน้าบ้าน

โซฟีพบว่าภายใต้ฉากหน้าที่สวยงาม ทุกคนในชุมชนไม่เว้นแม่แต่สามีของตัวเองมีบางอย่างซ่อนอยู่
เว้นแต่ จูเลียที่ดูจะมีชีวิตแสนสุข แต่แล้วการตายอย่างกะทันหันทำให้ทุกคนต้องกลับมาตั้งคำถามถึงความหมายของคำ ว่า ‘ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ’ อีกครั้ง

ทดลองอ่าน

เช้าวันหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วง สายลมพัดบาดผิว ท้องฟ้าเดือนตุลาเจิดจ้า
สีครามเข้ม รถราแล่นฝ่าถนนเส้นแคบๆ ย่านชานเมือง ทิ้งกองใบไม้หมุนเป็นวง
อยู่เบื้องหลัง ทว่าไม่มีใครในรถสังเกตเห็นร่างหนึ่งที่ห้อยอยู่ระหว่างต้นไม้
เท้าคู่นั้นแกว่งเรี่ยพื้นดินดูราวสวมถุงน่องสีแดงเข้ม แต่ที่แท้มันคือเลือดในตัว
ซึ่งตอนนี้กลายเป็นสีม่วงคล้ำและไหลมาขังอยู่ที่ส่วนล่าง เรือนผมสี บลอนด์ยาวสยาย
รอบศีรษะที่แน่นิ่งไม่ไหวติง สายลมเบาบางพัดผ่านชุดนอนพาให้ใบไม้ปลิวพลิ้ว
แต่ร่างนั้นยังคงสงบนิ่ง ไร้วิญญาณ…
รถหลายต่อหลายคันแล่นผ่านไปโดยไม่มีใครเห็นความผิดปกติ คงอีกหลาย
ชั่วโมงทีเดียวกว่าร่างนั้นจะถูกพบ - หากไม่มีโซฟี
ต่อไปนี้ชีวิตของโซฟีจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป แม้หนึ่งปีก่อนหน้านี้
เธอจะไม่เคยรู้จักหญิงสาวคนนี้เลยก็ตาม เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากมรณกรรมอีกครั้ง

1 พริซซิลล่า & กอร์ดอน

เช้าวันหนึ่งในเดือนมกราคม พริซซิลล่า เบรนเนอร์ ตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์
ไม่สดใส ท้องฟ้านอกหน้าต่างห้องนอนดูขมุกขมัวราวกับว่าจะมีหิมะตกลงมาอีก
พริซซิลล่าในวัยย่างเข้าสี่สิบ ที่จริงก็สี่สิบมาได้เกือบสัปดาห์แล้ว และด้วยวัยสี่สิบ
นี่เองที่เธอพบว่าตัวเองต้องการเปลี่ยนทุกอย่างในชีวิต แต่ตอนนี้ที่ตื่นขึ้นมาพบ
เช้าอันหมองหมัวของหน้าหนาวแบบนี้ พริซซิลล่าก็มองไม่เห็นความหวังนั้นอีกเลย
เมื่อชายตามาทางกอร์ดอน สามีที่นอนอยู่เคียงข้าง เพียงเห็นเขาเท่านั้นก็พาล
ให้เธอหงุดหงิดรำคาญ พริซซิลล่ามาถึงจุดที่ทุกอย่างเกี่ยวกับเขาชวนขวางหูขวางตา
ไปหมด ไม่เว้นแม้แต่การนอนหลับ เธอเกลียดปากที่เปิดอ้าของเขายามนอน เกลียดผิว
ที่หย่อนยานอยู่ใต้คาง (ซึ่งมองไม่เห็นเวลาตื่น) เธอเกลียดแม้แต่โครงแก้มสีเข้มเพราะ
มันเป็นสิ่งเตือนใจว่าเขาเคยหล่อแค่ไหนตอนที่ทั้งคู่พบกันครั้งแรก
ไม่ใช่เพราะเขาเปลี่ยนไปมากตลอดสิบห้าปีของชีวิตคู่ กอร์ดอนยังคงหุ่นดี
ถึงแม้เส้นผมตรงกลางกระหม่อมจะบางลงไปบ้าง เขาได้รับลักษณะของพวกชนชั้น
ขุนนางมาเต็มๆ แต่ในใจของพริซซิลล่าแล้ว ราวกับว่าเธอได้แต่งงานกับชายสองคน
ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงระหว่างผู้ชายที่เธอคิดว่า จะฝากชีวิตด้วยกับผู้ชายที่เป็น
ตัวตนที่แท้จริง เมื่อเจอกันครั้งแรก กอร์ดอนดูเป็นคนลึกลับเย็นชา โครงหน้าและ
รอยยิ้มนิ่งเงียบที่แอบซ่อนความลับราวกำลังขบขันเรื่องตลกของตัวเอง หนำซ้ำเขายัง
มีราศีจับเนื่องจากเติบโตมาในครอบครัวสังคมชั้นสูงของบอสตัน และถึงแม้จะเป็น
พวกเศรษฐีบ้านนอก แต่พวกเขาก็วางตัวได้สง่าสุขุม
ทว่าหลังจากแต่งงานแล้ว พริซซิลล่าพบว่าเธอมองกอร์ดอนผิดมาตลอด
ที่คิดว่าเย็นชา ที่แท้มันคือความเฉื่อยชา รอยยิ้มที่คิดว่าลึกลับ ที่แท้ก็แค่นิสัยของคน
เห็นแก่ตัวที่มีโลกส่วนตัว ยิ่งความเข้าใจเรื่องรัศมีราศีจับยิ่งแล้วใหญ่ ของแบบนี้มีจริง
เสียที่ไหน ถ้าเธอคิดว่าความเข้าใจผิดที่ว่าเป็นเรื่องน่าขันได้ เธอก็คงขำไปนานแล้ว
นาฬิกาปลุกของกอร์ดอนดังขึ้น พริซซิลล่ารีบหลับตาแสร้งทำเป็นยังหลับอยู่
ทุกเช้ากอร์ดอนชอบตื่นมาเลื่อนเวลานาฬิกาปลุกและกลิ้งตัวมาแหย่เธอ แค่พูด
ก็น่าเอือมแล้ว พอเขาทำจริงๆ นี่สิ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตกหลุมพราง ถูกบังคับ และ
เหนื่อยหอบ ที่สุดพริซซิลล่าก็บอกเขาว่า มันไร้มารยาทมากที่เขาปลุกเธอขณะยังหลับอยู่
ด้านกอร์ดอนผู้มีเหตุผลก็ยอมรับและไม่เคยทำอีก - ยิ่งทำให้เธอดูถูกเขามากขึ้นไปอีก
พริซซิลล่าแกล้งทำเป็นหลับอยู่ตรงนั้น ขณะที่กอร์ดอนเลื่อนตัวออกจากเตียง
ไปที่ห้องน้ำ เธอรอชั่วจังหวะหนึ่งจนได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัวจึงค่อยลุกขึ้นไปห้องน้ำของ
ตัวเอง
ครึ่งชั่วโมงให้หลัง เธออยู่ในห้องแต่งตัว เพ่งดูรูขุมขนจากกระจกขยาย
(เมื่อก่อนเธอเคยคิดว่าตัวเองมีผิวพรรณเปล่งปลั่ง แต่กระจกขยายนี่ทำให้รู้ว่าเธอ
คิดผิด) กอร์ดอนเคาะประตู ปกติแล้วเขาจะแค่ส่งเสียงข้ามประตูมาบอกว่าจะออกไป
ข้างนอกแล้ว แต่วันนี้เขายื่นหน้าเข้ามาดู
“อยากบอกคุณไว้ก่อนว่าวันนี้ผมอาจกลับดึก โอเคมั้ย”
“ได้” เธอตอบทั้งๆ ที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่กระจก คำตอบลอยมาพร้อมๆ กับ
แสงจากหลอดไฟที่สามารถปรับแสงได้ไม่ว่าจะเป็นแบบสลัว แสงภายในอาคาร หรือ
แสงธรรมชาติ เธอเลือกแสงแบบธรรมชาติ
“ผมไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงชอบนั่งแช่อยู่กับไอ้ของนั่น” เขาถาม
“คิดยังไงถึงถาม ก็ฉันอยากเห็นว่าตัวเองเป็นยังไง”
“คุณสวยเสมออยู่แล้ว”
“ฉันเริ่มมีรอยย่น”
“ไหน ผมมองไม่เห็นสักรอย”
“ฉันเห็นริ้วรอยพวกนี้จากกระจก และกระจกไม่เคยหลอกเราหรอกนะมันบอก
ความจริงเสมอ”
“ความจริงหรือ คุณหมายถึงว่ามีคนมายืนอยู่ตรงหน้าด้วยแสงจ้าแบบนี้
แล้วเอาแว่นขยาย แบบไหนดีนะ แบบรุ่นขยายห้าเท่ามาส่องหน้าคุณหรือไง”
“เจ็ดเท่า” เธอตอบ
“ลองนึกภาพตัวเองเดินไปมาด้วยหัวที่ใหญ่กว่านี้เจ็ดเท่าดูสิ”
“นั่นไม่ใช่ประเด็นสักหน่อย”
“แต่ผมว่านั่นแหละประเด็นสำคัญเลย” เขาตอบ
ในที่สุดเธอผละสายตาจากกระจกนั่นมาจ้องเขา
“โทษที” เขาขอโทษโดยอัตโนมัติ จากนั้นจึงพยายามเปลี่ยนเรื่องคุยให้เบาลง
“แล้ววันนี้คุณมีอะไรต้องทำบ้างล่ะ”
เธอเกือบจะโมโหแล้วเชียว “ก็ไม่มีอะไรมาก ก็แค่โทรหาพวกสมาชิกจูเนียร์ลีค
เพื่อเตือนเรื่องการพัฒนาความเป็นผู้นำกับเรื่องประชุมพวกคณะกรรมการ
สัปดาห์หน้า” ตอนนี้เองที่เธอนึกขึ้นได้เกี่ยวกับเรื่องการประชุมของกลุ่มผู้ชื่นชอบ
นิยายสืบสวนสอบสวนในตอนบ่ายวันนี้ได้ มันไม่ใช่แค่กลุ่มนักอ่านที่เธอเป็นสมาชิก
เท่านั้น หากแต่เป็นกลุ่ม ของเธอ เองต่างหาก เธอเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มขึ้นมา ดำเนินงาน
เอง และ (ส่วนใหญ่) ก็มีความสุขกับมัน ทว่าครั้งนี้เธอไม่ค่อยมั่นใจกับการประชุมนัก
สองสามเดือนก่อนมีบางเรื่องเกิดขึ้น ทำให้กลุ่มสั่นคลอน นั่นคือสมาชิกสองรายมีเรื่อง
หย่าร้างและย้ายออกจากหมู่บ้านไป ดังนั้นเธอจึงได้เชิญสมาชิกใหม่เข้ามาแทนท
ี่สองคน พริซซิลล่าไม่แน่ใจนักว่าผลจะออกมาดีไหม แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมีแคนด
ี้กับซูซาน เธอปลอบใจตัวเอง ทั้งสองคนนี้เป็นสมาชิกมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกลุ่ม และ
พริซซิลล่าเองก็เชื่อว่าเธอไว้ใจสองคนนี้ได้

เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป มาติดตามพร้อมกันใน จักฉากฆ่า-They-did-it-with-love-เล่มนี้