หนังสือสภาพดี รูป/เรื่องย่อ นิยาย/หนังสือ เยื่อใย โดย นิมมานรดี สำนักพิมพ์ ทำมือ 🧡🧡🧡 หมวดหนังสือ

เยื่อใย โดย นิมมานรดี สำนักพิมพ์ ทำมือ ⭐⭐⭐⭐⭐

คลิกดูหนังสือ 🧡 เยื่อใย โดย นิมมานรดี สำนักพิมพ์ ทำมือ ⭐⭐⭐⭐⭐

เยื่อใย

เยื่อใย
.   สินค้าหมด
"บทนำ ลมเอยเจ้าหอบใครมาให้ใคร งานเทศกาลประจำปีถูกจัดขึ้น ณ ศาลากลางจังหวัดอย่างยิ่งใหญ่ แต่ระหว่างที่พิธีเปิดงานกำลังดำเนินไปอย่างเร่งรีบเพราะฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจนั้น พายุฝนห่าใหญ่ก็โหมกระหน่ำลงมาอย่างรวดเร็ว ลมพัดแรงจนผู้คนต้องช่วยกันจับขาเต็นท์ร้านค้าแต่ละหลังไว้ไม่ให้ล้มพับ ภายในเต็นท์ใหญ่หน้าเวทีก็มีสภาพไม่ดีไปกว่าเต็นท์อื่นเท่าไร แม้จะมีขนาดใหญ่กว่าแต่ผู้คนก็เข้ามาเบียดเสียดหลบฝนกันหนาตากว่าเช่นกัน เสียงฟ้าร้องและแสงฟ้าแลบแต่ละครั้งทำให้ผู้คนเริ่มวิ่งหนีหาที่หลบภัยแห่งใหม่กันจ้าละหวั่น บุคคลสำคัญที่มาร่วมพิธีเปิดงานรีบลงจากเวที เพราะฝ่ายควบคุมเครื่องขยายเสียงเห็นว่าควรยุติการใช้กระแสไฟฟ้าทั้งหมดให้เร็วที่สุด ผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่านถูกเชิญเข้าไปอยู่ในตัวอาคาร แต่การจะไปถึงสถานที่นั้นได้ก็ต้องวิ่งฝ่าสายฝนไป บางคนก็ยอมวิ่ง บางคนก็ขอรอร่ม และบางคนก็ยอมเข้าไปรอที่หลังเวที หลังเวทีมีเนื้อที่ไม่กว้างนัก ซ้ำยังมีผู้คนรวมตัวกันอยู่จำนวนไม่น้อย ทั้งฝ่ายควบคุมเครื่องเสียง เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ และเหล่านักแสดงแต่ละชุดที่รอขึ้นแสดงซึ่งก็คงจะต้องรอต่อไปจนกว่าฟ้าฝนจะเป็นใจมากกว่านี้ หม่อมหลวงพวงผกา ไพรวัลย์ เลิศธารานุรักษ์ หรือคุณน้ำผึ้ง เจ้าของบ้านสวนผกาพรรณเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่ยืนหลบฝนอยู่หลังเวที ในกลุ่มเดียวกันนั้นมีบุตรชายของท่านและหญิงรับใช้คนสนิทรวมอยู่ด้วย ส่วนผู้ติดตามอีกคนนั้นกำลังติดต่อประสานงานให้คนขับเอารถตู้เข้ามารับหลังเวที วันนี้นับเป็นวันฤกษ์งามยามดี กรมอุตุนิยมวิทยาก็บอกว่าท้องฟ้าโปร่งอากาศสดใส แต่ภัยธรรมชาติเป็นเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุมของมนุษย์ หลายนาทีผ่านไปพายุฝนเริ่มซาลง แต่ก็ซาลงแค่เล็กน้อย รถตู้สีขาวติดฟิล์มทึบแสงกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ที่จอด กลุ่มบุคคลสำคัญจึงเดินออกไปรอตรงตำแหน่งที่รถจะเข้ามาจอดได้ใกล้ที่สุด ยกเว้นบุตรชายที่หยุดทักทายคนรู้จักระหว่างทาง ทันใดนั้นลมแรงระลอกใหม่ก็โหมพัดเข้ามา ข้าวของไร้น้ำหนักล้มระเนระนาด ความโกลาหลเกิดขึ้นอีกครั้ง เสียงร้องของคุณน้ำผึ้งและสาวใช้ดังขึ้นเมื่อร่มสนามใกล้ตัวถูกลมพัดแรงจนล้มใส่ ธนาธิปรีบเข้าไปช่วยมารดาแต่เพราะทิศที่เขาอยู่มีผู้คนพลุกพล่านจึงเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุช้ากว่าใครบางคนที่อยู่ใกล้กว่า ชายหนุ่มเห็นเต็มตาว่าใครคนนั้นเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ในชุดกินรี เจ้าหล่อนสูงไม่ถึงหน้าอกเขาด้วยซ้ำแต่กลับวิ่งเข้ามารับร่มสนามคันใหญ่ที่กำลังจะล้มคว่ำราวกับว่าตัวเองจะมีกำลังมากพอจะรับมันไหว “โอ๊ย!” แน่นอนว่าหล่อนรับไม่ไหว และเขาก็ไวไม่พอ สิ่งที่ธนาธิปทำได้ก็คือรีบยกร่มสนามที่หนักเอาการขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กใต้ร่มนั่งราบอยู่กับพื้น ใบหน้าบิดเบ้ด้วยความเจ็บ “เจ็บตรงไหนบ้าง” เขารีบนั่งลงถามไถ่ สังเกตเห็นว่าปลายเท้าของเด็กหญิงน่าจะถูกแท่งซีเมนต์ที่ใช้เป็นฐานร่มล้มใส่ แต่การมองด้วยตาเปล่าก็บอกไม่ได้ว่าเจ็บปวดมากน้อยเพียงใด “หนู เป็นยังไงบ้างลูก โอ๊ย! แม่คุณเอ๊ย ไหนดูสิ” คุณน้ำผึ้งที่รอดตัวจากร่มฟาดใส่ไปอย่างหวุดหวิดรีบเข้ามาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง สายตาตื่นตระหนกทอดมองเด็กหญิงตัวน้อยที่ลูกชายของนางกำลังประคองให้ลุกขึ้นยืน อายุอานามน่าจะยังไม่พ้นวัยประถม ทำไมถึงกล้าเอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงอันตรายแบบนี้ “ขอโทษค่ะ เกิดอะไรขึ้นคะ” หญิงวัยกลางคนวิ่งเข้ามา ละล่ำละลักขอโทษขอโพยบุคคลสำคัญ ด้วยเธอนั้นอยู่ด้านใน ไม่ทันเห็นเหตุการณ์จึงนึกว่าเด็กในปกครองตกใจลมฝนจนซุ่มซ่ามทำร่มล้ม เมื่อมีการเข้าใจผิดเกิดขึ้น ธนาธิปจึงรีบอธิบายว่าเด็กหญิงตัวน้อยไม่ได้มาสร้างปัญหา แต่มาช่วยคนอื่นจนตัวเองต้องเจ็บตัวต่างหาก เมื่อได้รับคำอธิบายจากชายหนุ่มหน้าตาดีประกอบกับคำยืนยันของหม่อมหลวงคนดังและผู้เห็นเหตุการณ์ทำให้คุณครูสาวค่อยคลายกังวล แล้วจึงหันไปสนใจอาการของเด็กหญิงที่ยืนหน้าเสียอยู่ด้วยความเจ็บและตกใจ “หนูเจ็บตรงไหนบ้าง” ธนาธิปสังเกตเห็นว่าเด็กหญิงยืนผ่อนน้ำหนักเท้าอยู่ข้างหนึ่ง น่าจะข้อเท้าแพลง ส่วนมือข้างหนึ่งก็กุมข้อมือตัวเองอยู่นานแล้ว เขาจึงลองยื่นมือไปสำรวจที่ข้อมือเล็ก เพียงแตะปลายนิ้วลงไปแรงหน่อยเด็กน้อยก็สะดุ้งร้องเสียงหลง “โอ๊ย! หนูเจ็บ” ขนิษฐาเงยมองคนที่ทำให้เธอต้องเจ็บตัวซ้ำ น้ำตาไหลอาบแก้ม ธนาธิปมองด้วยความร้อนใจ...เด็กหนอเด็ก คงทำลงไปเพราะสัญชาตญาณล้วนๆ อยากช่วยคนอื่นแต่ไม่ประเมินกำลังตัวเองเลย “ขอโทษ ฉันแค่ตรวจดู อย่าร้องไห้นะคนเก่ง” ปลายนิ้วเรียวยื่นไปเช็ดคราบน้ำตาบนแก้มนุ่ม เบามือไม่ต่างกับการปัดฝุ่นละอองบนขนนก เด็กหญิงพยักหน้าทั้งที่ยังสะอื้นเบาๆ เงยมองหน้าเจ้าของคำปลอบโยนแสนละมุนและปลายนิ้วแสนอุ่นที่กำลังหันไปพูดกับผู้ใหญ่ตาละห้อย... “พาน้องเขาไปโรงพยาบาลเถอะครับ” ธนาธิปหันไปบอกมารดาและคุณครูของเด็ก เมื่อไม่มีใครคัดค้าน ชายหนุ่มจึงอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยตรงไปยังรถตู้คันหรูที่จอดรออยู่
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป มาติดตามพร้อมกันใน เยื่อใยเล่มนี้